ฉีดฟิลเลอร์คางนอนตะแคงได้ไหม ดูแลตัวเองอย่างไรหลังฉีด 14 วัน

ฉีดฟิลเลอร์คางนอนตะแคงได้ไหม ดูแลตัวเองอย่างไรหลังฉีด 14 วัน

0 minutes, 7 seconds Read

การฉีดฟิลเลอร์เป็นหนึ่งในทรีตเมนต์ความงามที่ได้รับความนิยมอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะการฉีดฟิลเลอร์คางที่ช่วยปรับรูปหน้าให้สมดุล สวยงามตามต้องการ แต่หลายคนอาจกังวลว่าหลังฉีดฟิลเลอร์คางแล้วจะนอนตะแคงได้ไหม และต้องระวังเรื่องใดบ้าง วันนี้ Yayee Store จะมาไขข้อสงสัยพร้อมแนะนำวิธีการดูแลตัวเองหลังการฉีดฟิลเลอร์คางอย่างถูกต้อง เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่สวยงามและปลอดภัย

อาการหลังฉีดฟิลเลอร์คาง

ก่อนจะตอบคำถามว่าหลังฉีดฟิลเลอร์คางนอนตะแคงได้ไหม ควรทำความเข้าใจอาการที่อาจเกิดขึ้นหลังการฉีดฟิลเลอร์คางก่อน เพราะร่างกายของแต่ละคนอาจตอบสนองต่อการรักษาแตกต่างกัน โดยอาการที่พบได้บ่อยมีดังนี้

  • บวมและรู้สึกตึง อาการบวมเป็นเรื่องปกติที่พบได้หลังฉีดฟิลเลอร์คาง โดยมักจะบวมมากที่สุดในช่วง 24-48 ชั่วโมงแรก และจะค่อย ๆ ยุบลงภายใน 3-5 วัน อาจรู้สึกตึงบริเวณที่ฉีด ซึ่งเป็นการตอบสนองตามธรรมชาติของร่างกาย
  • รอยช้ำและรอยแดง บริเวณที่ฉีดอาจเกิดรอยช้ำหรือจ้ำเขียวได้ เนื่องจากเข็มที่ใช้ฉีดอาจกระทบเส้นเลือดฝอย ทำให้มีเลือดออกใต้ผิวหนัง รอยช้ำมักหายได้เองภายใน 7-10 วัน ส่วนรอยแดงจะค่อย ๆ จางลงภายใน 2-3 วัน
  • เจ็บและรู้สึกไม่สบาย ความเจ็บปวดหลังฉีดฟิลเลอร์คางเป็นอาการปกติ มักรู้สึกเจ็บเมื่อสัมผัสหรือขยับปาก อาการจะค่อย ๆ ดีขึ้นภายใน 3-5 วัน หากปวดมากสามารถทานยาแก้ปวดพาราเซตามอลได้ตามคำแนะนำของแพทย์
  • คลำเจอก้อนเล็ก ๆ อาจคลำพบก้อนเล็ก ๆ บริเวณที่ฉีดในช่วงแรก เป็นลักษณะของฟิลเลอร์ที่ยังกระจายตัวไม่สม่ำเสมอ ไม่ต้องตกใจ เพราะจะค่อย ๆ นุ่มขึ้นและกระจายตัวดีขึ้นภายใน 1-2 สัปดาห์
  • ผิวไวต่อการสัมผัส ผิวบริเวณที่ฉีดอาจไวต่อการสัมผัสมากขึ้น รู้สึกชาหรือเสียวเล็กน้อยเมื่อโดนกระทบ เป็นอาการปกติที่เกิดจากการตอบสนองของเส้นประสาทบริเวณนั้น จะค่อย ๆ ดีขึ้นภายใน 1-2 สัปดาห์

หลังฉีดฟิลเลอร์คางนอนตะแคงได้ไหม

สำหรับคำถามที่ว่าฉีดฟิลเลอร์คางนอนตะแคงได้ไหม คำตอบคือควรหลีกเลี่ยงการนอนตะแคงในช่วง 3-5 วันแรกหลังฉีด เพื่อป้องกันการเคลื่อนตัวของฟิลเลอร์และลดความเสี่ยงที่จะเกิดการกระจายตัวไม่สม่ำเสมอ แนะนำให้นอนหงายและใช้หมอนหนุนศีรษะให้สูงกว่าลำตัวเล็กน้อย

หลังฉีดฟิลเลอร์คางนอนตะแคงได้ไหม

ดูแลตัวเองอย่างไรหลังฉีดฟิลเลอร์คาง

  • ประคบเย็นอย่างถูกวิธี ควรประคบเย็นบริเวณที่ฉีดในช่วง 24-48 ชั่วโมงแรก โดยประคบครั้งละ 10-15 นาที วันละ 3-4 ครั้ง เพื่อช่วยลดอาการบวมและช้ำ แต่ต้องไม่กดแรงเกินไป และใช้ผ้าสะอาดห่อน้ำแข็งทุกครั้ง
  • ทำความสะอาดใบหน้าอย่างนุ่มนวล ล้างหน้าด้วยความระมัดระวัง ใช้น้ำอุ่นและคลีนเซอร์อ่อนโยน ไม่ขัดถูแรง ๆ เช็ดหน้าเบา ๆ ด้วยผ้าสะอาด หลีกเลี่ยงการใช้ผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนผสมของกรดหรือสารที่ทำให้ระคายเคือง
  • พักผ่อนให้เพียงพอ นอนหลับพักผ่อนให้เพียงพออย่างน้อยวันละ 7-8 ชั่วโมง นอนหงายและใช้หมอนหนุนศีรษะให้สูงกว่าลำตัวเล็กน้อย เพื่อช่วยลดอาการบวมและให้ฟิลเลอร์กระจายตัวได้สม่ำเสมอ
  • หลีกเลี่ยงการสัมผัสหรือนวดบริเวณที่ฉีด งดการนวดหรือสัมผัสบริเวณที่ฉีดโดยไม่จำเป็นอย่างน้อย 2 สัปดาห์ เพราะอาจทำให้ฟิลเลอร์เคลื่อนที่หรือกระจายตัวไม่สม่ำเสมอ ส่งผลให้ได้รูปคางที่ไม่สวยงามตามต้องการ
  • ใช้ครีมกันแดดเสมอ ทาครีมกันแดด SPF 50+ ทุกครั้งที่ออกแดด แม้จะอยู่ในร่ม เพราะแสงแดดอาจทำให้เกิดการระคายเคืองและอาการบวมแดงมากขึ้น ควรทาซ้ำทุก 2-3 ชั่วโมงเพื่อการป้องกันที่มีประสิทธิภาพ
  • รับประทานอาหารที่เหมาะสม เลือกรับประทานอาหารที่มีประโยชน์ เน้นผักผลไม้ที่มีวิตามินซีสูง ดื่มน้ำสะอาดอย่างน้อยวันละ 8 แก้ว เพื่อช่วยในการฟื้นฟูและลดการอักเสบของผิวหนัง

ข้อห้ามอื่น ๆ หลังฉีดฟิลเลอร์คาง

การดูแลตัวเองหลังฉีดฟิลเลอร์คางนั้นสำคัญมาก นอกจากเรื่องการนอนตะแคงแล้ว ยังมีข้อห้ามอื่น ๆ ที่ควรระวังเพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ดีและปลอดภัย ดังนี้

  • งดออกกำลังกายหนัก ควรงดการออกกำลังกายที่ใช้แรงมากอย่างน้อย 1 สัปดาห์ เพราะการเคลื่อนไหวที่รุนแรงอาจทำให้เกิดการบวมมากขึ้น และอาจส่งผลต่อการกระจายตัวของฟิลเลอร์ แนะนำให้เดินเบา ๆ หรือยืดเหยียดร่างกายเบา ๆ แทน
  • หลีกเลี่ยงเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ งดดื่มแอลกอฮอล์อย่างน้อย 48 ชั่วโมงหลังฉีด เพราะแอลกอฮอล์มีฤทธิ์ขยายหลอดเลือด อาจทำให้เกิดอาการบวมและช้ำมากขึ้น อีกทั้งยังอาจเพิ่มความเสี่ยงในการเกิดภาวะแทรกซ้อน
  • งดสูบบุหรี่ หลีกเลี่ยงการสูบบุหรี่อย่างน้อย 1 สัปดาห์ เนื่องจากนิโคตินในบุหรี่ทำให้การไหลเวียนเลือดแย่ลง ส่งผลต่อการฟื้นตัวของผิวและอาจเพิ่มความเสี่ยงในการเกิดภาวะแทรกซ้อน
  • หลีกเลี่ยงอาหารรสเผ็ดจัด งดอาหารรสเผ็ดจัดในช่วง 3-5 วันแรก เพราะอาจกระตุ้นให้เกิดการอักเสบและบวมแดงมากขึ้น ควรเลือกรับประทานอาหารที่ย่อยง่าย ไม่ระคายเคือง
  • งดทำทรีตเมนต์อื่น ๆ หลีกเลี่ยงการทำทรีตเมนต์ใบหน้าอื่น ๆ เช่น เลเซอร์ อัลตร้าซาวด์ หรือการนวดหน้า อย่างน้อย 2 สัปดาห์ เพื่อให้ผิวได้พักฟื้นอย่างเต็มที่
  • งดอาบน้ำร้อน หลีกเลี่ยงการอาบน้ำร้อนหรือแช่น้ำร้อนในช่วง 24-48 ชั่วโมงแรก เพราะความร้อนอาจทำให้เกิดการบวมมากขึ้น ควรใช้น้ำอุ่นอ่อน ๆ แทน
  • งดใช้ผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนผสมของ AHA/BHA หลีกเลี่ยงการใช้ผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนผสมของกรด AHA/BHA รวมถึงเรตินอล อย่างน้อย 1 สัปดาห์ เพราะอาจทำให้ผิวระคายเคืองและเพิ่มความเสี่ยงในการเกิดการอักเสบ
  • งดกิจกรรมที่ต้องก้มหน้านาน ๆ หลีกเลี่ยงกิจกรรมที่ต้องก้มหน้าเป็นเวลานาน เช่น การเล่นโทรศัพท์ การอ่านหนังสือ หรือการทำงานหน้าคอมพิวเตอร์ต่อเนื่อง เพราะอาจทำให้เกิดการบวมมากขึ้นและส่งผลต่อการกระจายตัวของฟิลเลอร์
  • งดสัมผัสความร้อนโดยตรง หลีกเลี่ยงการอบซาวน่า อบไอน้ำ หรือการสัมผัสความร้อนโดยตรงบริเวณใบหน้าอย่างน้อย 2 สัปดาห์ เพราะความร้อนอาจทำให้ฟิลเลอร์เสื่อมสภาพเร็วขึ้น
  • งดใส่เครื่องประดับบริเวณใกล้เคียง หลีกเลี่ยงการใส่เครื่องประดับที่อาจกดทับบริเวณคาง เช่น สร้อยคอที่มีจี้ขนาดใหญ่ หรือหน้ากากที่รัดแน่นเกินไป เพื่อป้องกันการกดทับและการเคลื่อนตัวของฟิลเลอร์

ข้อห้ามอื่น ๆ หลังฉีดฟิลเลอร์คาง

สรุปบทความ

การฉีดฟิลเลอร์คางเป็นทรีตเมนต์ที่ช่วยเสริมความมั่นใจได้ดี แต่การดูแลหลังการรักษาก็สำคัญไม่แพ้กัน โดยเฉพาะในเรื่องของการนอนตะแคงที่ควรหลีกเลี่ยงในช่วงแรก พร้อมทั้งปฏิบัติตามคำแนะนำในการดูแลตัวเองอย่างเคร่งครัด เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่สวยงามและปลอดภัย หากคุณกำลังมองหาผลิตภัณฑ์ดูแลผิวหน้าคุณภาพดี Yayee Store มีผลิตภัณฑ์ฟิลเลอร์ ราคาส่งและผลิตภัณฑ์บำรุงผิวหน้าที่ได้รับการรับรองจาก อย. ทุกรายการ รับประกันของแท้ 100% ปลอดภัยจากฟิลเลอร์หิ้วพร้อมราคาพิเศษที่คุณเข้าถึงได้ง่าย ๆ เพื่อการดูแลผิวที่สมบูรณ์แบบยิ่งขึ้น

Similar Posts

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *

X